รู้จักโรงเรียน

เกี่ยวกับโรงเรียนอุบลบุรีรักษ์การบริบาล


โรงเรียนอุบลบุรีรักษ์การบริบาล
สาขาอุบลราชธานี
    โรงเรียนอุบลบุรีรักษ์การบริบาล ก่อ ตั้งปี 2556 โดยผู้บริหารที่มากด้วยประสบการณ์การบริหารจักการโรงเรียนและมีภาคีร่วม พัฒนาความรู้จากองค์การโรงพยาบาลภาครัฐบาลและโรงพยาบาลภาคเอกชนมากว่า 15 ปี มีเครือข่ายโรงพยาบาลรองรับนักศึกษาเข้าฝึกงานและทำงานและร่วมพัฒนามากกว่า 100 โรงพยาบาล มีวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยร่วมพัฒนาการเรียนการสอนมากกว่า 20 แห่ง เปิดการเรียนการสอบมาแล้ว 7 รุ่น 
- ปีการศึกษา 2556 จำนวน 1 รุ่น  จำนวนที่จบ 4 คน
- ปีการศึกษา 2557 จำนวน 4 รุ่น จำนวนที่จบการศึกษาแล้ว 182 คน
- ปีการศึกษา 2558 จำนวน 4 รุ่น จำนวนที่เรียนจบทั้งหมด 500 คน
- ปีการศึกษา 2559 จำนวน 4 รุ่น จบการศึกษา 500 คน
- ปีการศึกษา 2560 จบการศึกษาแล้ว 300 คน กำลังศึกษา 200 คน
- ปีการศึกษา 2561 สมัครเรียนแล้ว 200 คน รายงานตัวแล้ว 120 คน



นางสาววารินี  ปล้องนิราศ (ผู้บริหารโรงเรียน)

- ปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจ
- ปริญญาตรีด้านสาธารณสุขศาสตร์
- ปริญญาตรีด้านการศึกษา
- คณะกรรมการสมาคมโรงเรียนบริบาลแห่งประเทศไทย
- อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยรัฐบาล และเอกชน
- ที่ปรึกษาโครงการเพื่อสังคม
- ประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษาเด็ก เยาวชน และผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาอุบลบุรีรักษ์
- ผู้บริหารสถานบันการพยาบาลสุขภาพและพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุอุบลบุรีรักษ์
- ผู้บริหารโครงการพัฒนาคนสู่ความเป็นเลิศ
- ประธานกลุ่มคุ้มครองสิทธิสตรี

รองผู้บริหารโรงเรียน
1. นางปิยมาศ ธัญถนอม พยาบาลวิชาชีพ ชั้น 1 ประสบการณ์ทำงาน 30 ปี
2. นางศิริพร สาโครต บริหารธุรกิจบัณฑิต ประสบการณ์ทำงาน 30 ปี
3. นางสาวรสสุคลธ์ ธัญญถนอม วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต

คณาจารย์โรงเรียน
1. แพทย์                  จำนวน 2 คน
2. พยาบาลศาสตร์       จำนวน 6 คน
3. เภสัชกร               จำนวน 2 คน
4. สาธารณสุขศาสตร์    จำนวน 2 คน
5. สังคมศาสตร์          จำนวน 4 คน
6. อาจารย์แนะแนว       จำนวน 8 คน

วิสัยทัศน์ 
    “โรงเรียนผลิตพนักงานผู้ช่วยการพยาบาล เสริมความรู้ด้านเภสัชกร ที่เป็นเลิศมีมาตรฐานสูงและได้รับความเชื่อถือในระดับสากลสร้างสรรค์คนดีสู่สังคม”


ความสำคัญในการก่อตั้งโรงเรียน

     เนื่องจากประเทศไทยมีจุดแข็งคือ สยามเมืองยิ้ม บุคลากรด้านการบริการจึงเป็นที่นิยมของชาติต่างชาติจากสถิติจากสถานพยาบาลใน การรักษาพยาบาลโรงพยาบาลจึงเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติมาใช้บริการด้านการ รักษาพยาบาลเป็นจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และประชากรผู้สูงอายุเริ่มสูงขึ้นในหลายๆประเทศต่างเลือกมาใช้บริการด้านการ แพทย์ในประเทศไทยในอัตราส่วนเพิ่มขึ้นทุกปี บุคลากรทางการพยาบาลจึงเป็นที่ต้องการของผู้ใช้บริการโรงพยาบาลหรือสถาน ประกอบการ ประกอบกับปัญหาการว่างงานของนักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัย
ปัญหาการว่างงานของคนไทยในปัจจุบัน
       แม้จะเรียนจบ ม.6 หรือปริญญาตรีก็ไม่มีงานทำ ปัจจุบันนักเรียนที่จบการศึกษาระดับ ม.6 ในภาคอีสานแล้วไม่ได้เรียนต่อ จำนวนมากกว่า 200,000 คนต่อปี และตกงานมากถึง 90,000 คนต่อปี 45% หรือ 100 คน ตกงาน 45 คน เนื่องจากสาเหตุหลายๆ อย่างเช่น แรงงานทดแทนจากต่างประเทศ ได้แก่ พม่า ลาว เวียดนาม และเขมร เป็นแรงงานไร้ฝีมือ และค่าจ้างถูกกว่าแรงงานไทย ทำให้คนที่จบ ม.3 ม.6 ปวช. ต่างตกงานจำนวนมากและแย่งงานกับแรงงานไร้ฝีมือ และแรงงานส่วนใหญ่เข้าสู่โรงงานอุตสากรรม พาณิชย์กรรม ใช้แรงงานทั่วไป หากแรงงานไม่แสวงหาความรู้เพิ่มเติมก็จะเป็นเพียงลูกจ้างตลอดชีวิต เป็นชนชั้นสังคมรับจ้าง
       ผู้ที่เรียนจบปริญญาตรีทั่วประเทศไทยปีละ 600,000 คนขึ้นไป ตกงาน 200,000 ต่อปี โดยเฉพาะปริญญาตรีด้านสังคมศาสตร์ เนื่องจากระบบราชการสามารถรับได้เพียง 5,000 คนต่อปีที่เหลืออีก 500,000 คน ภาคเอกชนรับเข้าทำงาน 250,000 คน ที่เหลือตกงาน 200,000 คน คนตกงานเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหน.............................ไปประกอบอาชีพ อะไร..............................................ส่วนใหญ่แล้วจะไปทำงานในตำแหน่งเดียวกับคนที่จบ ม.3 ม.6 ปวช. รับค่าแรงขั้นต่ำ บางส่วนก็ไปประกอบอาชีพส่วนตัวบ้าง สำหรับผู้มีเงินทุน ที่เหลือส่วนใหญ่ก็กลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่ เป็นภาระพ่อแม่ต่อไป
     คนที่จะทำงานในระบบราชการได้ปัจจุบันต้องมีเส้นสาย ร้อยละ 50% ใช้เงินและเส้นสายร้อยละ 40% เรียนเก่งจริงๆๆ (เกรดเฉลี่ย 3.5 ขั้นไป) จึงจะมีโอกาสสอบได้ระบบต้นๆ ที่จะไม่ต้องใช้เส้นและใช้เงินเพื่อทำงานราชการ มีเพียง 10% โดยเฉพาะครู ปัจจุบันนี้ไม่มีการกำหนดตำแหน่งเพิ่มแล้ว มีแต่จะลดตำแหน่งลงครูที่เกษียณแล้วจะไม่มีการกำหนดตำแหน่งเพิ่มทดแทนครู เดิม ยกเว้นสาขาที่ขาดแคลน (คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ) ส่วนสายสังคมล้นตลาด
ปัญหาขาดแคลนแรงงานด้านการพยาบาล
      ปัญหาประชาชนไม่ได้รับการบริการสุขภาพอย่างทันท่วงที ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการพยาบาลและเภสัชกรต่างๆ ทำให้ประชาชนได้รับบริการล่าช้าและไม่มีคุณภาพ ทำให้มีความต้องการบุคลากรทางการพยาบาลต่างๆ มากมาย ปัญหาคนใกล้ตัวหรือคนในครัวเรือนไม่รู้จักวิธีดูแลรักษาตัวเองปัญหาเหล่านี้ ทำให้ครอบครัว คนในครอบครัวเราไม่ค่อยมีความรู้ด้านสุขภาพทำให้ไม่รู้จักรักษาตัวเอง เมื่อไม่สบายก็จะไปหาหมอทันที่ และบางโรคก็รักษาไม่ทันแล้ว (ซึ่งจะเสียใจ ไม่สามารถเรียกคืนได้)
  ปัญหาพ่อแม่ไม่มีเวลาเลี้ยงลูกสภาวะเศรษฐกิจรัดตัว พ่อแม่มีภาระไม่มีเวลาดูแลลูกหลาน ทำให้พ่อแม่ต่างๆนำลูกไปฝากในศูนย์รับเลี้ยงเด็กต่างๆ ทั้งในเมืองและอำเภอต่างๆ ความต้องการแรงงานด้านนี้จึงเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ ครูพี่เลี้ยงในโรงเรียนและศูนย์เลี้ยงเด็กต่างๆ มากเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ปัญหาคนชรามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นแต่ไม่มีคนดูแลทำให้คนชราไม่ได้รับการดูแล ปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียวลูกหลานมีภาระการงานมากขึ้นต้องต่อสู้เพื่อช่วยตัว เองให้อยู่รอดในสภาวะเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันสูง
  - การเมือง การเมืองในปัจจุบันมีปัญหาการประท้วงแบ่งพักแบ่งพวกเสี่ยงต่อการเกิดปฏิวัติ รัฐประหาร ส่งผลต่อเศรษฐกิจไม่ดี รัฐบาลต้องลดกำลังพลหรือยุบหน่วยงานราชการที่ไม่จำเป็นลง ทำให้ลดจำนวนข้าราชการและลูกจ้างของหน่วยงานที่ไม่จำเป็น หรือฝ่ายตรงข้ามลงเสี่ยงต่อการตกงาน และนักเรียนที่เรียนต่อมหาลัยแล้วคาดว่าจะรับราชการก็มีความหวังลดลง
  - กระแสความงาม ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ “ความงามสามารถสร้างได้”ทำให้มีคลินิกความงาม ศูนย์ความงาม เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆเพื่อตอบสนองความต้องการ ทำให้มีความต้องการพนักงานประจำศูนย์ความงามและคลินิกความงามมากขึ้นตามไป ด้วย
 - กระแสสุขภาพ คนไทยรักสุขภาพมากขึ้น จริง หรือไม่
         โรงเรียนอุบลบุรีรักษ์การบริบาลจึงเล็งเห็นความสำคัญจึงได้มีการสอนทักษะ เรียนตามใจของตนเองโดยมีผู้สอนเป็นผู้ให้ความรู้ และค่อยให้คำแนะนำช่วยให้ประสบผลสำเร็จในการเรียน ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติอย่างถูกต้องโดยทำกิจกรรมการเรียนการสอน ให้กล้าคิด กล้าแสดงออก กล้าลงมือทำ อย่างถูกต้องโดยผู้สอนให้การสนับสนุน ส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้จากประสบการจริงโดยตรงกับสิ่งมีที่เรียนและ ให้โอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียนที่มีความสนใจในสายอาชีพการบริการด้านสุขภาพ และสมารถประกอบอาชีพได้อย่างมีความรับผิดชอบคุณธรรม และจริยธรรม โดยรู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม ควบคู่กับการดูแลสังคมต่อไป
                                                              


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
115/3 หมู่ที่ 4 ซอยข้างวัดด้ามพร้า-ขามใหญ่ ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 34000 โทรศัพท์/โทรสาร 045-311828
โรงเรียน 045-311828080-4593311094-2677173 , 097-3298686

Website:  www.urrschool.com 




 โรงเรียนการบริบาลอุบล, โรงเรียนการบริบาล, การบริบาลอุบล, การบริบาล, ผู้ฃ่วยพยาบาลอุบล, ผู้ฃ่วยพยาบาล | โรงเรียนอุบลบุรีรักษ์การบริบาล | อุบลบุรีรักษ์การบริบาล | อุบลบุรีรักษ์ | การบริบาลอุบล | โรงเรียนการบริบาลอุบล | ผู้ช่วยพย่บาลอุบล | โรงพยาบาลอุบลรักษ์ | โรงเรียนอุบลรักษ์ | อุบลรักษ์การบริบาล |โรงเรียนผู้ช่วยพยาบาลอุบล โรงเรียนการบริบาลอุบล, โรงเรียนการบริบาล, การบริบาลอุบล, การบริบาล, ผู้ฃ่วยพยาบาลอุบล, ผู้ฃ่วยพยาบาล | โรงเรียนอุบลบุรีรักษ์การบริบาล | อุบลบุรีรักษ์การบริบาล | อุบลบุรีรักษ์ | การบริบาลอุบล | โรงเรียนการบริบาลอุบล | ผู้ช่วยพย่บาลอุบล | โรงพยาบาลอุบลรักษ์ | โรงเรียนอุบลรักษ์ | อุบลรักษ์การบริบาล |โรงเรียนผู้ช่วยพยาบาลอุบล

คลังบทความเว็บไซต์

โรงเรียนอุบลบุรีรักษ์การบริบาล

โรงเรียน อุบลบุรีรักษ์การบริบาล
(Ubon Bureeruk Caregiver School)
เลขที่ 115/3 ม.4 ซ.ด้ามพร้า-ขามใหญ่ ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 34000
มือถือ     064-034-1659   อ.ไนซ์
มือถือ     080-459-3311   อ.ไนซ์
มือถือ     094-267-7173   อ.พร
มือถือ     097-329-8686

จำนวนการเข้าชม